ข้าวแรมฟืน หรือข้าวแรมคืนป้าอุ๊ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

     ช่วงฤดูหนาว คนส่วนมากเก็บกระเป๋าหาวันหยุดยาวติดกันสัก 2-3 วันขึ้นไป เดินทางไปรับลมหนาวกันที่จังหวัดทางภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ หรือเชียงราย นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หาได้เฉพาะในฤดูหนาวนี้เท่านั้นแล้ว เมื่อได้ไปต่างถิ่น สิ่งที่เหล่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยพลาดกับก็คือ การหาของกินพื้นเมืองมารับประทาน วันนี้เราจะพาเหล่านักท่องเที่ยวนักชิม ไปเปิบอาหารพื้นเมืองท้องถิ่นของชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ และไทยเขิน นำเข้ามาจากทางสิบสองปันนาประเทศจีน ผ่านมาทางพม่า แล้วเข้ามาทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว อาจถือได้ว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวแม่สายได้เช่นกัน

     ข้าวแรมฟืน หรือข้าวแรมคืน เป็นอาหารที่มีลักษณะพิเศษคือ ส่วนประกอบในการทำข้าวแรมฟืนนั้น มีเพียงแค่ตัวแป้งข้าวแรมฟืนกับเครื่องปรุงเท่านั้น ตัวข้าวแรมฟืนเดิมมี 2 ชนิด คือข้าวแรมฟืนขาว และข้าวแรมฟืนถั่วลันเตา ปัจจุบันได้เพิ่มข้าวแรมฟืนถั่วดิน (ถั่วลิสง) ชนิดนี้ตัวแป้งจะมีสีเทา มีทั้งลักษณะเป็นชิ้น ๆ และเป็นแบบโจ๊กละเอียด แบบเป็นชิ้นจะเคี้ยวมันหนุบหนับ ส่วนแบบเป็นโจ๊กละเอียดก็คล่องคอ รสชาติของข้าวแรมฟืนนอกจากความหอมมันจากตัวแป้งแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ข้าวแรมฟืนมีรสชาติอันน่าลิ้มลอง ก็คือ น้ำสู่ หรือน้ำปรุงรสข้าวแรมฟืนนั่นเอง รสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ยิ่งทานช่วงกลางคืนในฤดูหนาวแล้วละก็ ทำให้ได้ความอร่อย และความอบอุ่นเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า ร้านที่แนะนำคือ ร้านป้าอุ๊ เป็นร้านรถเข็น ถ้าหันหน้าเข้าประตูชายแดนไทย-พม่า รถเข็นของป้าจะอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงด่านชายแดนไม่เกิน 200 เมตร ที่รถป้าจะมีป้ายชื่อร้านเล็ก ๆ ติดอยู่ พร้อมกับสรรพคุณสารอาหารต่าง ๆ ของข้าวแรมฟืนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้วิจัยไว้ นอกจากความอร่อย แล้วยังได้ความรู้จากข้าวแรมฟืนด้วยว่าเป็นอาหารสุขภาพ ไขมันและพลังงานต่ำ อ้ออีกอย่างข้าวแรมฟืนเป็นอาหารมังสวิรัติ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อสัตว์ด้วย ลองแวะไปชิมดูนะคะ ราคาชามละ 10 บาทเท่านั้น

้